Culture and history info
ประเทศกรีซได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมตะวันตก และยังเป็นเป็นต้นกำเนิดของประชาธิปไตย, ปรัชญา, วรรณกรรมโบราณ, ประวัติศาสตร์นิพนธ์, รัฐศาสตร์, ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์, โรงละคร และการแข่งขันโอลิมปิก นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช ชาวกรีกอยู่รวมกันเป็นนครรัฐอิสระหลายแห่งเรียกว่า poleis ซึ่งทอดยาวจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลดำ พีลิปโปสที่ 2 แห่งมาเกโดนีอา ได้รวมดินแดนส่วนใหญ่ในปัจจุบันเข้าด้วยกันในศตวรรษที่ 4 อเล็กซานเดอร์มหาราช โอรสของพระองค์สร้างชื่อด้วยการพิชิตโลกโบราณในระยะเวลาอันสั้น ตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงอินเดีย ก่อนจะเข้าสู่สมัยเฮลเลนิสต์ ซึ่งวัฒนธรรมกรีกโบราณขยายอิทธิพลไปทั่ว ก่อนที่ดินแดนทั้งหมดจะถูกผนวกเข้ากับสาธารณรัฐโรมัน ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราชโดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ในยุคจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกรีซทั้งในด้านวัฒนธรรมและภาษา[14][15] คริสตจักรออร์โธดอกซ์ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ช่วยสร้างเอกลักษณ์ของยุคกรีกสมัยใหม่และถ่ายทอดวัฒนธรรมกรีกสู่อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และหลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองโดยจักรวรรดิออตโตมัน ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 กรีซได้กลายสภาพเป็นรัฐชาติสมัยใหม่ใน ค.ศ. 1830 หลังสิ้นสุดสงครามประกาศอิสรภาพ[16]
ในช่วงศตวรรษแรกของการก่อตั้งราชอาณาจักรกรีซ ผู้ปกครองอาณาจักรแสวงหาการขยายดินแดนซึ่งประสบความสำเร็จในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในระหว่างสงครามบอลข่านก่อนจะลงเอยด้วยความปราชัยอย่างย่อยยับในสงครามสงครามกรีก-ตุรกี ค.ศ. 1919–1922 ซึ่งส่งผลต่อความเสื่อมโทรมของอาณาจักรอีกหลายปี สาธารณรัฐเฮลเลนิกที่สองก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งเผชิญกับความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงการตั้งถิ่นฐานโดยผู้ลี้ภัยชาวตุรกี ระบอบเผด็จการกษัตริย์มีจุดเริ่มต้นใน ค.ศ. 1936 และครอบงำประเทศซึ่งตามมาด้วยการยึดครองกรีซของฝ่ายอักษะในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง, สงครามกลางเมืองกรีซ และนำไปสู่การยึดอำนาจโดยคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองใน ค.ศ. 1967 อย่างไรก็ตาม กรีซมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงระว่างทศวรรษ 1950–70 และกลายสภาพเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ระบอบประชาธิปไตยได้รับการฟื้นฟูใน ค.ศ. 1974 การล้มล้างระบอบกษัตริย์ในช่วงเวลาดังกล่าวนำไปสู่การก่อตั้งสาธารณรัฐกรีกที่สามซึ่งกินเวลามาถึงปัจจุบัน
ประเทศกรีซปกครองแบบสาธารณรัฐระบบรัฐสภา ถือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และเป็นประเทศอำนาจปานกลาง โดยมีรายรับสูงและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร[17] โดยอยู่ในอันดับที่ 32 ในดัชนีการพัฒนามนุษย์ เศรษฐกิจของประเทศมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศคาบสมุทรบอลข่าน ซึ่งเป็นแหล่งลงทุนระดับภูมิภาคที่สำคัญ กรีซเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ, เป็นสมาชิกลำดับที่ 10 ของสหภาพยุโรป และเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนตั้งแต่ ค.ศ. 2001 รวมทั้งเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ สภายุโรป, เนโท, องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ, องค์การการค้าโลก และ องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป กรีซมีเอกลักษณ์ในด้านมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีมรดกโลกที่รับรองโดยยูเนสโกจำนวน 19 แห่ง[18] รวมทั้งขึ้นชื่อในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเดินเรือ[19]
ภูมิศาสตร์
ภูเขาโอลิมปัส
ประเทศกรีซประกอบด้วยแผ่นดินใหญ่ในทางทิศใต้ไปจนถึงแหลมบอลข่านและเกาะมากมายกว่า 3,000 เกาะ รวมทั้งเกาะครีต (Vrete) เกาะโรดส์ (Rhodes) เกาะไคออส (Chios) เกาะเลสบอส 7 (Euboea) และหมู่เกาะโดเดคะนีส (Dodecanese) และพวกไซแคลดิกทางทะเลอีเจียน ที่เหมือนกับชาวกรีกบนหมู่เกาะไอโอเนียน กรีซมีแนวชายฝั่งทะเลยาว 15,000 กิโลเมตร และเส้นแบ่งเขตแดน ยาว 1,160 กิโลเมตร
ราว ๆ 80% ของประเทศกรีซประกอบด้วยภูเขา และเนินเขา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรีซเป็นประเทศหนึ่งในยุโรปที่มีภูเขามากที่สุด ทางตะวันตกของกรีซจะเป็นทะเลสาบและพื้นที่ชื้นแฉะพินดัส เป็นภูเขาทางตอนกลางซึ่งมีความสูงถึง 2,636 เมตร เมื่อพิจารณาดูแล้ว ภูเขาพินดัสอาจจะมีการขยายออกมาจากเทือกเขาดิแนริดได้ แนวเทือกเขาที่ต่อเนื่องกัน กลายเป็นแหลมเพโลพอนนีส เกาะคีทีรา (Kythera) และเกาะแอนติคีทีรา (Antikythera) พบที่จุดปลายของเกาะกรีก
ทางตอนกลางและทางตะวันตกของกรีซ เป็นที่สูงชัน มียอดเขาสูงที่แยกออก เป็นหุบเขาลึกมากมาย และมีลำธารระหว่างหุบเขาต่าง ๆ เช่น ช่องแคบ Meteora และ Vikos มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแกรนด์แคนยอนในสหรัฐ
ยอดเขาโอลิมปัสเป็นจุดที่สูงที่สุดของกรีซ คือ 2,919 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ทางตอนเหนือก็ยังมีเทือกเขาสูง ๆ อีก อย่าง Rhodope ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของมาซิโดเนียและเทรซ พื้นที่นี้ถูกปกคลุมไปด้วย ป่าทึบเก่าแก่ขนาดใหญ่ เหมือนกับ Dadia ที่เป็นที่รู้จักกัน