มาแนะนำแบบเคล็ดไม่ลับ ให้มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ กันนะครับ บางคนอาจจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเลย บางคนอาจจะเคยนั้งเครื่องบินภายในประเทศแล้ว ความตื่นเต้นก็ลดลงมาหน่อย เพราะว่าจากนี้ไปเป็นการออกเดินทางนอกประเทศนะครับ จะต้องเตรียมอะไรมากกว่าการเดินทางในประเทศ และช่วงสถานะการณ์การระบาดโควิด-19 มาตราการขั้นตอนต่างๆ ทั้งออกไป และเข้าประเทศปลายทางต้องมีข้อมูลหรือเตรียมตัวให้พร้อม อะไรบ้างที่ควรรู้และเตรียมการล่วง เป็นหัวข้อมาแนะนำดังนี้
เตรียมตัวให้พร้อม มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ
สิ่งที่จำเป็น ที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่องบิน
- หนังสือเดินทาง Passport (หัวใจของการเดินทาง) ณ วันที่เดินทางต้องไม่หมดอายุ และยังใช้ได้อย่างน้อยอีก 6 เดือน พร้อมวีซ่าสำหรับเข้าประเทศนั้นๆ หากคุณลืมไว้ที่บ้านคุณอาจจะตกเครื่อง
- ตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยปกติต้องมีทั้งไปและกลับ เพราะบางประเทศจะขอให้แสดงก่อนเข้าประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณกลับประเทศไทยแน่นอน ปัจจุบันคุณสามารถเก็บข้อมูลตั๋วไว้ในมือถือ หรืออีเมล์ ไว้เลย หรือมี QR Code (แต่แนะนำให้พิมม์ออกมาเป็นกระดาษไว้เลยดีกว่าสะดวกเวลา แสดงโชว์ให้ ต.ม. ตอนไปถึงจะได้สะดวกง่าย)
- เตรียมแลกเงินเอาไว้ก่อน เป็นเงินสกุลประเทศที่จะเดินทางไป อาจจะเป็นร้านที่รับแลกเงิน หรือจะไปแลกเอาที่สุวรรณภูมิก็ได้
- กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่โหลดใต้ท้องเครื่อง มีของเหลวเกิน 100 มิลลิลิตร, power bank ต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่เท่านั้น
- กระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่อง อะไรที่ไม่สามารถหิ้วขึ้นเครื่องได้ ดูคำแนะนำของการท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ
- แยกเงินสดออก เป็นชุด 2-3 กระป๋า เก็บให้มิดชิด นำติดตัวเสมอ เพราะป้องกันสูญหายทั้งหมด หรือบางส่วน บางส่วนพกติดตัว และกระป๋าสะพายติดตัว
- ถ่ายรูปเอกสารสำคัญด้วยมือถือของเรา แล้วอัพโหลดเข้า Google Drive หรือส่งเมล์ให้ตัวเอง ควรมีอีเมล์ที่ 2 ของตัวเอง กันเอกสารตัวจริงสูญหาย
- รูปถ่ายขนาดที่ทำวีซ่า (2×2 นิ้ว) ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ เผื่อพาสปอร์ตหาย จะไม่เสียเวลาไปหาที่ถ่ายรูปใหม่
- ถ่ายสำเนาพาสปอร์ต ติดตัวไปด้วย
- ซิมการ์ด ไวไฟ ใช้อินเตอร์เนต หรือซื้อแพคเกจ ของค่ายมือถือ จำกัดระยะเวลาที่เราอยู่ต่างประเทศ เอาไว้โพสรูป หรือคุยแชท ผ่านอินเตอร์เนต แทนโทรศัพท์เพื่อสื่อสาร
- ยาสามัญรักษาโรค ที่เราจำเป็นต้องใช้ โดยมีสลากกำกับภาษาอังกฤษอยู่ด้วย สามารถระบุอธิบายได้กรณีถูกตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่
- ที่ชาร์ตเครื่องไฟฟ้า และปลั๊กเสียบ Adapter ที่ใช้ในประเทศนั้นๆ
มาก่อนเวลา 3 ชั่วโมง อย่างน้อย สำหรับมือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ
ออกจากบ้าน กะเวลาให้เหมาะดูสภาพการจราจรให้ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนถึงเคาน์เตอร์เช็คอินอย่างน้อย 3 ชั่วโมง (ช่วงสถานการณ์โควิด หรือช่วงเทศกาลอาจต้องใช้เวลาเพื่อขึ้น) หากคุณเช็คอินน์ตั๋วเครื่องบินออนไลน์ได้ นี่แนะนำเลยนะห้ามพลาด จะได้ไม่ต้องไปยื่นต่อแถวแบบคนทั่วไปครับ และคุณจะมีเวลาอีกเยอะสำหรับสิ่งต่างๆ ดังนี้
- ตรวจตราเอกสาร
- เข้าคิว เช็คอิน และรับบัตรขึ้นเครื่อง (Check-in)
- ผ่านด่านตรวจคนเข้าออกจากประเทศไทย
- แลกเงิน
- ร่ำลา หรือโทรศัพท์ก่อนขึ้นเครื่อง
- เดินสำรวจร้านค้าปลอดภาษี สำหรับขาช้อบปิ้ง
- เข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวสำหรับคนที่มักจะตื่นเต้นง่าย
- สุดท้ายมีเวลาเดินหาประตูขึ้นเครื่อง Gate
16 สายการบินสามารถเช็กอินล่วงหน้าได้ 4 ชั่วโมง
7 สายการบินที่ผู้โดยสารสามารถเช็กอินด้วยตนเองผ่านระบบ CUSS และโหลดกระเป๋าด้วยตนเอง
23 สายการบินที่ผู้โดยสารสามารถเช็กอินด้วยตนเองผ่านระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ
ตรวจสอบเที่ยวบิน มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ
ก่อนมาสนามบินคุณควรจะรู้ก่อนว่าเคาน์เตอร์สายการบินที่คุณจะบินอยู่ หมายเลขอะไรนะครับ สำหรับมือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ออนไลน์ได้ที่นี่คลิกเลย เมื่อคุณถึงสนามบินให้เช็คดูจอมอนิเตอร์ว่าเที่ยวบินที่เรานั่งมีสถานะเป็นยังไง ออกตามเวลา หรือดีเลย์หรือไม่ เค้าน์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร
ขั้นตอนเช็คอินตั๋วโดยสารและสัมภาระ
เข้าเช็คอินโดยการตรวจตั๋วโดยสาร ปัจจุบันนี้ระบบออนไลน์เข้ามาแทนที่ทั้งหมด ผู้โดยสารไม่จำเป็นมีตั๋วโดยสารที่เป็นกระดาษแล้ว (Paper Tiket) ใช้ระบบ e-ticket และรับบัตรที่นั่งสำหรับขึ้นเครื่อง หรือ Bording Pass ใครยังงงอยู่ ตั๋วโดยสารกับบัตรที่นั่งโดยสารขึ้นเครื่องเป็นคนละใบกันครับ ซึ่งตั๋วโดยสารที่เรามีอยู่ยังไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ทันที จะต้องเอาไปให้เจ้าหน้าที่แต่ละสายการบินตรวจและออกบัตรให้อีกหนึ่งใบ เรียกว่าบัตรขึ้นเครื่อง (ฺBoarding Pass) โดยในบัตรจะแสดงรายละเอียดว่าว่าต้องไปขึ้นเครื่องที่ประตูไหน Gate นั่งเก้าอี้ตัวไหน Seat Number อย่าลืมตรวจสอบข้อมูล ชื่อ-สกุล ของเราว่าถูกต้องตรงกันหรือเปล่า
ปัจจุบันนี้วิวัฒนาการของบริการเช็คอินผู้โดยสาร เพื่อจำกัดคนทำงาน และทำงานได้รวดเร็ว มีตู้อิเลคทรอนิค ให้ท่านเช็คอินด้วยตนเองที่สนามบิน หรือ เช็คอินทางอินเตอร์เนต มาจากบ้านได้เลย ผ่านมือถือ ออกบัตรที่นั่ง (Bording Pass) ได้เองเลย
ตรวจบัตรเสร็จแล้วก็นำกระเป๋าผ่านเข้าเครื่อง X-Ray เพื่อนำไปเช็คอิน ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เราจะฝากไปเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ต้องดูให้แน่ใจว่ากระเป๋าที่เราโหลดไปใต้ท้องเครื่องนั้น จะไม่มีของจำเป็นที่จะต้องหยิบใช้ระหว่างเดินทาง เพราะจะไม่สามารถรื้อออกมาได้อีก และสิ่งของต้องห้ามที่นำขึ้นเครื่อง เราก็จะต้องใส่ลงในกระเป๋าใบใหญ่นี้ โดยเฉพาะ สิ่งของมีคม เพาเวอร์แบงค์ เป็นต้น
สแกนสัมภาระ
จากนั้นเราก็เสร็จภาระกิจตรงเช็คบัตรที่นั่งและสัมภาระ จากนั้นเป็นขั้นตอนเข้าสู่ บริเวรด้านในสนามบินที่เข้าได้เฉพาะผู้โดยสารเท่านั้นๆ ญาติๆ ที่มาส่งก็ต้องร่ำลา กันตรงนี้ จากนั้นนำหนังสือเดินทางและบัตรที่นั่งโดยสาร ผ่านเข้าสู่ขั้นตอน Security สแกนสัมภาระกันต่อ จะมีทางเดินเข้าช่องสแกนสัมภาระ ให้เอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์ ไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เสื้อคลุมต้องถอดออก บางสนามบินที่เข้มงวดมากจะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย ส่วนน้ำดื่มจะต้องทานให้หมดก่อนเข้าสแกนสัมภาระ หรือไม่ก็ต้องทิ้งลงถังขยะ กระเป๋าถือ เป้ ให้วางลงในสายพานผ่านเครื่อง x-ray ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ
ตรวจหนังสือเดินทาง
ปัจจุบันนี้ 2566 แบบฟอร์มใบ ตม. ขาออกขาเข้า ไม่จำเป็นต้องกรอกให้ยุ่งยากแบบสมัยโบราณ ยุคกะลาแลนด์ เพราะใช้ระบบออนไลน์แสกนข้อมูล จากบาร์โค๊ด ในหนังสือเดินทาง สามารถบันทึกข้อมูลของผู้เดินทางได้อย่างง่ายดาย ไปแล้ว เพียงแค่ท่านมีพาสปอร์ต และบัตรที่นั่งโดยสารเท่านั้น
สำหรับคนไทยเท่านั้น ที่สามารถใช้เครื่องเช็คอินหนังสือเดินทาง โดยเครื่องจะทำการแสกนพาสปอร์ต และบัตรโดยสาร ที่มีระบุเที่ยวบิน และมีบาร์โค๊ด เพื่อบันทึกข้อมูล จากนั้นเครื่องจะทำการถ่ายรูปผู้เดินทาง พร้อมกับแสกนลายนิ้วมือ เมื่อเครื่องแสกนผ่านเรียบร้อยแล้วประตูผ่านจะเปิดให้ท่านเข้าไปอัตโนมัติ (กรณีผู้ที่มีลายมือแสกนไม่ขึ้น หรือไม่ผ่าน ก็สามารถไปใช้บริการเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ ต.ม. ที่เห็นมีคิวของชาวต่างชาติยื่นต่อแถวอยู่ได้ครับ)
รอขึ้นเครื่อง
หลังจากสแกนสัมภาระเสร็จ ได้สัมภาระคืนกลับมาแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องอาจจะหาอะไรกิน แวะเดินเล่นช้อปปิ้ง Duty Free ได้ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding Time ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนเกต ทางที่ดีควรไปถึงหน้าประตูก่อนเครื่องขึ้นอย่างน้อย 30-40 นาที เร็วกว่านั้นได้ยิ่งดี จะได้ไม่พลาด
ขึ้นเครื่อง
ก่อนเครื่องออกจะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา
ออกเดินทาง สำหรับมือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ
เมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลข สังเกตง่ายๆ จะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระ หากหาไม่เจอสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ เก็บสัมภาระไว้ในช่องด้านบนได้ ส่วนของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่บนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เราจะไป ให้เรากรอกข้อมูล
ถึงจุดหมายปลายทาง
เดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียม Passport + ใบ ตม. ของประเทศนั้นไว้รอตรวจให้พร้อม
เสร็จจาก ตม. ก็ไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพานแล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าอย่าลืมสำรวจความถูกต้อง ว่าเป็นกระเป๋าของตัวเองหรือเปล่า มีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ หากเกิดความเสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามความเป็นจริง ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย
คนที่ไม่มีสิ่งของจะต้องแสดง ให้ออกทางช่องเขียว Nothing to Declare
คนที่มีสิ่งของต้องแสดง เช่น นำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง Good to Declare
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.