กรุงปักกิ่ง เป็นนครหลวงของประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นศูนย์กลางของประเทศจีนและเป็นเมืองที่ลือชื่อในนานาชาติ มีสถานที่สำคัญที่หลายหลากและติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงประเทศจีนก่อนสักนิดนะครับ จีน (China) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ชาวตะวันตกเรียกรวม ๆ ว่า China (จีน) ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น จีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก และมีขนาดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงรัสเซียและแคนาดา
อะไร คือมนต์เสน่ห์ของกรุงปักกิ่ง
หากท่านได้มาถึงถิ่นเล้ว ไม่ได้ไปเยือนคงจะต้องบอกว่า มาไม่ถึงเมืองจีนหรือปักกิ่งแน่นอน ไม่ต้องเดานั่นก็คือ “กำแพงเมืองจีน” มนต์เสน่ห์ของเมืองปักกิ่ง อันดับต้นๆ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง สร้างในสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงงาน เลือดเนื้อ และชีวิตของคนนับล้านคน เหตุผลที่มีการสร้างกำแพงเมืองจีนนี้ขึ้น คือเพื่อปกป้องรักษาการรุกรานของฝ่ายตรงกันข้าม เช่น มองโกล, เติร์ก นอกจากนี้กำแพงเมืองจีนยังมีอีกชื่อว่า กำแพงหมื่นลี้ เพราะความยาวของกำแพงที่ยาวถึง 6,350 กิโลเมตร นับได้ว่าเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลกเลยที่เดียว คาดคะเนว่าสร้างมามากกว่า 2,000 ปีนั่นเอง แต่ที่สำคัญอยู่ตรงกำแพงที่เรียงรายต่อกันยาวสวยงามนั้น ถ้าปกติบ้านเราแน่นอนว่าจะต้องใช้ปูนฉาบกับอิฐเรียงกันไป แต่กำแพงเมืองจีนแห่งนี้เขาใช้ข้าวเหนียวในการต่ออิฐเรียงต่อกันไป (เป็นตำนานที่เราต่อๆ กันมา) ระหว่างทางเดิน จะมีศิลาจารึกที่ท่านเหมาเจ๋อตุงเขียนไว้ว่า “ถ้ามาเมืองจีนแล้วไม่ได้มากำแพงเมืองจีนไม่ใช่วีรบรุษ” ด้วยนะครับ
จากนั้น เมื่อมาเยือนเมืองปักกิ่งแล้ว มนต์เสน่ห์ของเมืองปักกิ่ง อีกแห่ง คือการได้ชื่นชมสถานที่ประวัติศาสตร์ จัตุรัสเทียนอันเหมิน มาจากคำว่า ‘เทียน’ แปลว่า ฟ้า ‘อัน’ แปลว่า ผาสุก ‘เหมิน’ แปลว่า ประตู ท่านจะได้สัมผัสกับจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดใต้ 880 เมตร ทิศตะวันออกจรดตะวันตก 500 เมตร รวมอาณาบริเวณทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตรเลยทีเดียว สามารถจุประชากรได้ถึง 1 ล้านคน จัตุรัสแห่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ประเทศจีนที่ยิ่งใหญ่ เป็นสถานที่จัดพิธีฉลองเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ จัตุรัสเทียนอันเหมินล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญ ได้แก่ หอประตูเทียนอันเหมินที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจัตุรัส ธงแดงดาว 5 ดวงผืนใหญ่โบกสะบัดอยู่เหนือเสาธงกลางจัตุรัส อนุสาวรีย์วีรชนใจกลางจัตุรัส มหาศาลาประชาคมด้านทิศตะวันตกของจัตุรัส ตลอดจน พิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีนทางฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ทางด้านทิศใต้ยังมี หอรำลึกท่านประธานเหมาและหอประตูเจิ้งหยางเหมิน หรือเฉียนเหมิน
และ มนต์เสน่ห์ของเมืองปักกิ่ง อีกแห่งที่ท่านจะได้สัมผัสกับความงามที่แสนอัศจรรย์ของ พระราชวังฤดูร้อน “อี้เหอหยวน” ของพระนางซูสีไทเฮา ที่เคยเป็นสถานที่ที่เจ้านายผู้ปกครองในระบบศักดินานิยมมาพักผ่อนตากอากาศ โดยจักรพรรดิต่อมาอีกหลายพระองค์โปรดเสด็จมาประทับทรงงาน ตลอดจนว่าราชการแผ่นดินที่พระราชวังฤดูร้อนนอกเขตพระราชฐาน จนทำให้พระราชวังฤดูร้อนมีบทบาทสำคัญในด้านเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนิน และทะเลสาบคุนหมิงที่เกิดจากเกิดจากการใช้แรงงานคน ขุดดินขึ้นไปถมเป็นเนินเขา เพื่อสร้างเป็นพระตำหนัก พระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาเกือบ 1,000 ปี และได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง” มีภูมิประเทศเป็นขุนเขางดงามประดุจดังภาพวาด อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก
และ หอฟ้าเทียนถาน เป็นอีกหนึ่งแห่งที่เป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองปักกิ่ง วนอุทยานขนาดยักษ์ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่งโดยมีวัดใหญ่ที่ประดับประดาอย่างวิจิตรตระการตาตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการหลีกหนีจากฝูงชนและในขณะเดียวกันก็ยังให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมอันงดงามอีกด้วย
เป็นสถานที่ซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบพระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม ตั้งแต่เริ่มนั้นเทียนถานใช้เป็นสถานที่บูชาทั้งฟ้าและดิน จนมาถึงสมัยของฮ่องเต้เจียจิ้งแห่งราชวงศ์หมิง (พ.ศ.2065-2110) จึงได้มีการสร้างหอบูชาดิน หอบูชาพระอาทิตย์ และหอบูชาพระจันทร์ แยกออกไปต่างหาก เทียนถานจึงเหลือชื่อเรียกเพียงหอบูชาฟ้า
แต่หลังจากที่ผู้มาเยือนได้สมัผัสกับมนต์เสน่ห์สถานที่ต่างๆ ของปักกิ่งแล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองปักกิ่ง
นั่นคือ มนต์เสน่ห์ของการโชว์กายกรรม โชว์กายกรรมที่ปักกิ่งเป็นสุดยอดของความบันเทิง ทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งของร่างกาย การทรงตัวและทักษะในการใช้มือของผู้แสดงล้วนน่าตื่นตะลึงจนคุณต้องอ้าปากค้างเลยละ แต่แย่หน่อยที่ป๊อบคอร์นรสชาติไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
และมนต์เสน่ห์ของอาหารเลิศรส ที่ต้องไปชิมเป็ดปักกิ่ง เป็ดปักกิ่งที่นี่ต้องบอกว่ารสเด็ดมาก ใครที่เคยได้ยินเกี่ยวกับเป็ดปักกิ่งมานานแต่จินตนาการไม่ออกว่ามันเป็นอย่างไร ลองนึกภาพตามนะครับ เนื้อเป็ดชุ่มฉ่ำม้วนไว้ในแผ่นแป้ง พร้อมด้วยเครื่องปรุงรสและผักให้รสชาติที่กลมกล่อม ขอแนะให้ลองไปชิมที่ภัตตาคารต้าต่งเพราะขึ้นชื่อในเรื่องนี้
พร้อมทั้งไม่พลาด ชิมของกินบนถนนหวางฝูจิ่ง มนต์เสน่ห์ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองปักกิ่ง ซึ่งของกินที่นี่ถือเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดที่จะมาเยือนถนนหวางฝูจิ่งในตอนกลางคืน โดยมีทั้งเนื้อแกะ เนื้อไก่ เนื้องู และบรรดาเนื้อที่ไม่รู้ว่าเนื้ออะไรแต่ว่ามีรสชาติดีเสียบอยู่กับ เหล็กย่างยาว ๆ ให้ได้ลิ้มลอง รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินจนพุงกางอย่างแน่นอน
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.