ท่องเที่ยวทางธรรมชาติตื่นตาตื่นใจไปกับจินตนาการ คืออะไร?
จากข้อความข้างต้น ท่องเที่ยวทางธรรมชาติตื่นตาตื่นใจไปกับจินตนาการ คืออะไรนั้น… เราสามารถตอบท่านได้ว่า คือการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆที่มีอะไรพิเศษมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆทั่วไป รวมถึงการได้รู้ความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ ว่ามีความโดดเด่นอย่างไร จึงทำให้เรียกว่าแตกต่าง อะไรที่ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ และนี่คือข้อสงสัยที่จะทำให้ได้พบกับคำตอบที่จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆกัน…
สารบัญเนื้อหา
Mendenhall Ice Caves
สถานที่ตั้ง: ประเทศบราซิล
ถ้ำน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ เป็นถ้ำที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็งที่สวยงาม ทอดตัวยาวประมาณ 12 ไมล์ ตั้งอยู่ในหุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว อีกหนึ่งความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ เมื่อก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมา แขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ตระการตา เป็นที่ดึงดูดนักเที่ยวนับพันคนต่อปีที่มาเที่ยวชม ดูความสวยงามของถ้ำ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างไว้ได้อย่างสวยงามจริงๆ สำหรับถ้ำน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์แห่งนี้
Monte Roraima
สถานที่ตั้ง: ประเทศบราซิล
เขาโรไรมา ตั้งอยู่บนหินฐานทวีปกายอานา ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ในพื้นที่ 30,000 ตารางกิโลเมตร ของอุทยานแห่งชาติคาไนมา ภูเขารูปโต๊ะที่สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ เกิดจากการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก มีอายุถึง 2 พันล้านปีนับตั้งแต่ยุคพรีแคมเบรียน จุดสูงสุดของเขาแห่งนี้คือ มาเวอริคร็อค สูงถึง 2,810 เมตร ตั้งอยู่ทางใต้สุดของที่ราบสูงและทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ของเวเนซุเอลา หากใครที่กำลังมองหาการผจญภัยครั้งใหม่ในดินแดนอเมริกาใต้แล้วละก็ ภูเขาโรไรมา สถานที่สุดอัศจรรย์แห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ที่นักผจญภัยไม่ควรจะพลาดเลยจริง ๆ
Trolltunga
สถานที่ตั้ง: ประเทศนอร์เวย์
โทรลล์ทุงกา มีความหมายว่าลิ้นของโทรลล์ มีอายุกว่า 10,000 ปี ด้วยความที่เป็นชะง่อนผาที่มีลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขาประมาณ 2,000 ฟุตลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้นั่นเอง หากยอมปีนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวที่คุ้มค่ากับที่ปืนขึ้นมาแน่นอน เพราะวิวของแม่น้ำ Ringedalsvatnet สวยอย่างกับภาพวาด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นสถานที่สุดหวาดเสียว แต่ทางการไม่มีความประสงค์จะทำรั้วกั้น เนื่องจากไม่อยากบดบังทัศนียภาพ ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน
Whitehaven Beach
สถานที่ตั้ง: ประเทศออสเตรเลีย
ความขาวของหาดไวท์ฮาเวน ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98%จึงทำให้หาดดูมีสีขาวสะอาดตา ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี นอกจากนี้ ทรายบนหาดแห่งนี้ไม่เหมือนกับหาดทรายทั่วไป เพราะเป็นทรายที่ไม่เก็บความร้อน ทำให้เราสามารถเดินเท้าเปล่าบนหาดได้อย่างสบาย ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Salar de Uyuni
สถานที่ตั้ง: ประเทศโบลิเวีย
ซาลาร์ เดอ อูยูนี เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ห่างจากกรุงลาปาซเมืองหลวงของโบลิเวียประมาณ 185 ไมล์ ทำให้เราสามารถมองที่ราบสีขาวโพลนนี้ไปไกลสุดลูกหูลูกตาได้ด้วย นอกจากทะเลเกลือที่ดูมหัศจรรย์นี้แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่บรรดานกฟลามิงโก ออกมาโชวต์ตัวอวดขนสวยกันให้เห็นได้อยู่เป็นประจำอีกด้วย
The Carrera Caves
สถานที่ตั้ง: ระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินาและชิลี
ถ้ำหินอ่อนการ์เรรา เป็นถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำได้กัดเซาะเป็นระยะเวลานับล้านปี จนภูเขาหินอ่อนเกิดเป็นโครงข่ายถ้ำหินอ่อนอันงดงามไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก โดยถ้ำแห่งนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของทะเลสาบ การ์เรรา ทะเลสาบขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ โดยทะเลสาบนั้นระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินา และชิลี เป็นถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำได้กัดเซาะเป็นระยะเวลานับล้านปี เต็มไปด้วยน้ำใสสะอาด แสงสะท้อนจากท้องฟ้ากระทบผิวน้ำของทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง ของทวีปอเมริกาใต้แห่งนี้ จนภูเขาหินอ่อนเกิดเป็นถ้ำหินอ่อนอันงดงามไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก
Haiku Stairs
สถานที่ตั้ง: ประเทศสหรัฐอเมริกา
บันไดที่เหมือนจะพาขึ้นมาถึงสวรรค์แห่งนี้ อยู่ที่ฮาวาย ประกอบไปด้วยจำนวนขั้นบันไดคอนกรีตเกือบ 4,000 ขั้น และอยู่สูงจากหุบเขาไฮกุประมาณ 850 เมตร เป็นเส้นทางเดินป่าสูงชันที่ถูกปิดและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวย่างกรายเข้าไป แต่ยังไงก็ตาม หนทางสู่สวรรค์อยู่ตรงหน้าก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย นักท่องเที่ยวหลายคนยังคงปีนขึ้นไปกันอย่างไม่ขาดสายแม้จะมีป้ายห้ามขึ้นก็ตาม เพราะสิ่งที่พวกเขาได้รับนอกจากการทดสอบความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ยังมีของรางวัลเป็นบรรยากาศพร้อมวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่น่าจดจำที่สุดเลยก็ว่าได้
Glowworm Caves in Waitomo
สถานที่ตั้ง: ประเทศนิวซีแลนด์
เหมือนดาวอยู่ใกล้แค่เอื้อมในถ้ำสุดมหัศจรรย์แห่งนี้ “Waitomo Glowworm Caves” หรือถ้าแปลตรงตัวก็คือ “ถ้ำหนอนเรืองแสง” ตั้งอยู่ที่เกาะเหนือ ทางตอนใต้ของเมืองไวกาโต ประเทศนิวซีแลนด์ คำว่า Waitomo แปลว่า น้ำที่ลอดผ่านถ้ำ ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทางกายภาพภายในถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่าน และสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องตกตลึงเมื่อเข้าไปสู่ถ้ำแห่งนี้ ก็คือ แสงระยิบระยับ จนเหมือนว่ากำลังมองดูดวงดาวบนฟ้าในยามค่ำคืน โดยสาเหตุของแสงที่ว่านี้ก็เนื่องมาจากภายในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของ หนอนเรืองแสง นับล้านตัว ประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner’s Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสงที่งดงามนั่นเอง
Son Doong Cave
สถานที่ตั้ง: ประเทศเวียดนาม
ถ้ำซันดอง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang ประเทศเวียดนาม ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศเวียดนามกับลาว โถงที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำซันดองนี้ ยาวกว่า 4,000 เมตร กว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 150 เมตร คาดว่าถ้ำนี้มีมาตั้งแต่ 2-5 ล้านปีที่แล้ว ความยิ่งใหญ่สุดจินตนาการนี้ เกิดจากการที่กระแสน้ำจากแม่น้ำไหลกัดเซาะชั้นหินปูนที่อยู่ใต้ภูเขา เมื่อชั้นหินปูนถูกกร่อนมาอย่างยาวนานมันก็พังทลายลงเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ขึ้นมา ฟังดูเหมือนง่ายแต่กระบวนการทั้งหมดนี้กินเวลานับล้านปีเลยทีเดียว
Antelope Canyon
สถานที่ตั้ง: ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุบเขาแอนทีโลพ อีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติบันดาลให้ปรากฏ อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน Antelope Canyon จึงกลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตร อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.