เรามาย้อนความทรงจำกับ การเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก กัน เชื่อได้ว่า ณ วันนี้ เรานั่งมองย้อนอดีต กับการเดินทางครั้งแรกของเรา มันจะถือว่าเป็นว่าเป็น การท่องเที่ยว ครั้งแรกของเราใช่หรือไม่ นับเริ่มจากเราจำความได้ โดยจะขอย้อนอดีตตั้งแต่เท่าที่เราจำความได้สมัยเด็กกันเลยทีเดียว มันจะเป็นความทรงจำที่ดี หรือที่ไม่น่าจดจำ แต่นั่นก็อคือเรื่องราวที่มันผ่านมาของชีวิตคนเรา เรามาเริ่มกันเลย
- ประวัติการเดินทาง
- ออกนอกบ้านเมื่อไหร่
- ไปกะใคร
- ประทับใจแบบไหน
- ผจญภัย หรือมีอุปสรรคอย่างไร
- จดจำการเดินทาง
- ทำไมถึงอยากท่องเที่ยว
1.ประวัติการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก
เมื่อวัยจำความได้ก่อนจะเข้าเรียนหนังสือ เราคงได้มีโอกาสเดินทางไปกับพ่อแม่ ยามที่เรายังวัยเยาว์ อยู่ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ อาทิเช่น เดินทางไปเยี่ยมญาติ พี่น้อง ที่อยู่ต่างบ้านต่างเมือง เพื่อไปพบปะกับ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ป้า น้า อา ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวๆ ต.ย. วันหยุดสงกรานต์ วันครอบครัว เป็นต้น หรือไม่บางครอบครัวอาจจะต้องย้ายถิ่นฐาน ตามผู้ปกครองไปทำงานที่แห่งใหม่ นั่นก็ถือว่าเป็นการเดินทางของเรา ซึ่งหากเราจำความได้ มันก็อาจจะสร้างความตื่นเต้น ประทับใจ ได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ของสถานที่ พบผู้คนใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จัก
2.ออกนอกบ้านเมื่อไหร่?
คงเป็นคำถามที่ทำให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งคิดทบทวนกันนานเลยทีเดียว แต่ที่แน่นอนละการออกจากนอกบ้านของเราในวัยเด็กก็คงหนีไม่พ้น คือ ไปเข้าโรงเรียน จะเรียน เตรียมอนุบาล หรือโรงเรียนอนุบาล (สำหรับคนที่อาศัยในเมือง) หรือไปโรงเรียนประถมครั้งแรก คงนึกภาพออกนะครับ ว่าไม่เคยห่างจากบ้านเป็นเวลานานหลายชั่วโมง กับการเรียนวันแรก คงมีร้องไห้ระงมกันเลยทีเดียว ร้องตามหาพ่อแม่ที่ไปส่ง เราพบเหตุผลว่า เราไม่เคยห่างจากพ่อแม่มาไกล และนานขนาดนี้ หลังจากผ่านไปวัน สองวัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กันคนแปลกหน้า ซึ่งจะเข้ามาเป็นเพื่อนใหม่ นั่นก็แปลได้ว่า การเดินทางออกนอกบ้านจะถือว่าเป็นการท่องเที่ยว หรือไม่ใช่ ก็อาจจอนุมานได้ว่า นั่นเป็นการเดินทางท่องเที่ยวส่วนหนึ่งของการเรียน การศึกษาตั้งแต่เยาว์วัย
3.ไปกะใครจำได้ไหม? กับการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก
คงบอกได้เลยว่า คงไม่มีใครที่เดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เพราะความกลัว ไม่มีความปลอดภัย นั่นคือสัญชาตญาณ การเรียนรู้ของเราโดยอาจจะไม่มีใครสอน หรือไม่ก็ถูกห้ามปรามจากพ่อแม่ เด็กบางคนกล้าที่จะออกผจญภัยข้างนอกบ้าน ด้วยปัจจัยของสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ หรือสภาพสังคม เศรษฐกิจของครอบครัว ซึ่งเด็กบางคน ออกเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก ตอนที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษา หรือเรามักคุ้นเคยกับคำว่า “ทัศนาจร” มันหมายถึงการได้ไปท่องเที่ยวช่วงระยะสั้นๆ ไม่นอนค้างคืน เพราะเด็กเล็กเกินไป ที่ยังต้องได้รับการดูแลจากผู้ปกครองอยู่ พอเติบโตขึ้นระดับมาหน่อย โรงเรียนก็มีการจัดกิจกรรมเข้าค่าย เช่น เข้าค่ายลูกเสือ เนตรนารี ซึ่งอาจจะต้องนอนค้างแรมด้วย เป็นต้น คำถามว่าคุณไปกับใครจำได้ไหม? ตำตอบ ก็อาจจะมีไม่เหมือนกันกับ การเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก แต่บทสรุปคือ มันเป็นช่วงที่เรา ยังเยาว์วัยอยู่การเดินทางอาจจะต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
4.ประทับใจแบบไหน? ในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก
ความหมายของคำว่า “ประทับใจ” มันจะออกมาในเชิงบวก เป็นส่วนใหญ เช่น ซาบซึ้งใจ,จับใจ,ติดใจ,ชื่นชม,ต้องใจ,ตรึงใจ,ชื่นชอบ,ติดอกติดใจ,ฝังใจ ซึ่งมันอาจจะมีความหมายแตกต่างกันไปสำหรับใครหลายๆ คน เพราะเหตุการณ์เหล่านั้น ที่ถูกจดจำมาถึง ณ เวลานี้ของคุณ ซึ่งกำลังอยู่ในวัยไหนก็ มีความรู้สึกแตกต่างๆกัน บางคนจะจดจำแต่เรื่องดีๆ อย่างเดียว บางคนอาจจะจำทั้งเรื่องดีๆ และเรื่องไม่ดี ก็ยังจำมันได้ จนมีคำพูดชาวบ้านๆ ว่า “จำจนลูกบวช” คำนี้มันถูกพูดกันมาก ยามถึงมีครอบครัวมีลูก พร้อมที่จะบวช แต่ด้วยที่ห่างหายกันกันมานาน พอจะนึกว่าลูกคนนั้นบวช ลูกคนนี้บวช ต่างก็นึกกันไม่ออกเสียที แต่พอเราเรื่องจำ “ฝังใจ” ในสมัยอดีต ตั้งแต่ไหนก็ไม่รู้นานมาก แต่พอยกเรื่องที่ฝังใจกันทุกคน ก็ถึงว่า “อ้อ ลูกไอ้คนนั้นไง”
และเรื่องที่เล่ามานี้ อยากจะสรุปว่า ความประทับใจ ในการเดินทางครั้งแรก มันสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ กับสิ่งที่ไม่คาดคิด และไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งอาจจะมักเรียกกันว่า “การผจญภัย” กับการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก เสมอ
5.ผจญภัย หรือมีอุปสรรคอย่างไร?
ผจญภัย ความหมาย คือ การเสี่ยงภัย, เสี่ยงอันตราย ฟังดูมันออกจะน่ากลัวไปนะ แต่คำนี้ก็มักจะเอามาใช้สำหรับนักเที่ยว ที่ชอบความตื่นเต้น เร้าใจ ท้าทาย จะหนัก หรือน้อย ขึ้นอยู่ กล้า และบ้าบิ่น ของแต่ละคน แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างในพฤติกรรมของมนุษย์ การลดความเสี่ยง การลดความกลัว เป็นเรื่องที่มนุษย์หาทางออกได้ หากมีความกลัวที่มาก ก็อาจจะท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย สบายๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมมากกว่า ปัจจุบัน ข้อมูลท่องเที่ยว หากันได้ง่ายๆ
ตัวอย่าง กับเหตุการณ์จริง ของทีมฟุตบอลหมูป่า เป็นเหตุการณ์ ช็อคคนทั้งโลก คงเป็น สตอรี่อธิบายเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
การเตรียมตัว การวางแผน การเรียนรู้ การหาข้อมูลในยุคปัจจุบันนี้ ทำให้การผจญภัย ที่อยู่ข้างหน้านั้นเบาลงได้ แต่ถึงจะวางแผนเตรียมการมาดี ในระหว่างการเดินทางก็มักจะมีอุปสรรคอยู่เสมอ ไม่มากก็น้อย ขอยกตัวอย่าง เช่น
- เพื่อนร่วมทางมีปัญหา ทะเลาะกันระหว่างทาง
- เกิดอุบัติเหตุทางร่างกาย หกล้ม ป่วย อาหารเป็นพิษ
- เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
- เกิดภัยธรรมชาติ
- เกิดการประท้วงของคนในท้องถิ่น
เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ มันถูกบันทึกความทรงจำร่วมกันระหว่างผู้ร่วมทาง ซึ่งจะมีทั้งสุข และทุกข์ ปนกันไป
การเดินทางก็คือ “ครู” ที่สอนให้รู้จักทางเดิน
บางครั้ง… อุปสรรคของการเดินทาง อาจไม่ใช่สภาพอากาศ แต่เป็นสภาพจิตใจ
6.จดจำการเดินทาง
มีคนกล่าวว่า “การจดจำที่ดี คือ การได้หลงทาง” และมันมีคำคม มากมายที่เขียนไว้บนผืนโลกนี้
One’s destination is never a place, but a new way of seeing things. – Henry Miller
จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่สถานที่ใดที่หนึ่ง หากแต่เป็นการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ด้วยมุมมองใหม่ต่างหาก
Travel makes one modest. You see what a tiny place you occupy in the world. – Gustave Flaubert
การเดินทาง ทำให้คนมีความเจียมตัว คุณจะได้เห็นว่าที่ที่คุณอยู่ เป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ บนโลกใบนี้เท่านั้นRemember that happiness is a way of travel, not a destination. – Roy M. Goodman
จงจำไว้ว่า ความสุขเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทางIt is good to have an end to journey toward; but it is the journey that matters, in the end. – Ernest Hemingway
การมีจุดจบของการเดินทางเป็นเรื่องที่ดี แต่ท้ายสุดแล้ว สิ่งสำคัญคือ การได้ออกเดินทาง
7.ทำไมถึงอยากท่องเที่ยว
คำถามนี้คงหาคำตอบได้หลากหลาย มากมายของแต่ละคน การออกไปท่องเที่ยวมีความหมายและความสำคัญอย่างไร บางคนมีเป้าหมายทำงานเพื่อสร้างฐานะและหนีจากความยากจน บางคนทำงานเพื่อหวัง เก็บเงินเพื่อซื้อรถ เพื่อซื้อบ้าน เพื่อเก็บเงินไว้ให้พ่อแม่ เก็บเงินไว้เพื่อลูกๆ เรียนหนังสือจบมาจะได้มีงานดีๆ ได้ทำ บางคนก็มุ่งหน้าตั้งตาเรียนให้สูงๆ บางคนก็เก็บเงินไปเที่ยวเตร่ เที่ยวกินดื่มอย่างเมามันส์ บางคนก็เงินเดือนออกใช้หมดเดือนชนเดือน บางคนก็ออกไปท่องเที่ยวบ้างตามวันหยุดสุดสัปดาห์ บางคนทำงานไม่มีวันหยุด
บางอาชีพ ต้องแบกภาระหน้าที่จนไม่มีเวลาเป็นของตนเอง ซึ่งมีหลายอาชีพ ยกตัวอย่าง อาชีพหมอ พยาบาล ต้องดูแลคนป่วยที่เข้ารับการรักษา และนัดหมอไว้ตามตารางนัด จนไม่มีเวลาหลงเหลือสำหรับการที่จะได้ออกไปเที่ยวได้มากมายหลายวัน อย่างอาชีพทำงานธนาคารก็มีข้อกำหนดหยุดงานได้ไม่เกิน 3 วัน ซึ่งโอกาสจะได้เดินทางอิสสระได้ยาวๆ หลายวันก็เป็นเรื่องยาก
สภาพแวดล้อมของสังคม เศรษฐกิจ และค่านิยมของแต่ละบ้านเมืองก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยว คนหนุ่มสาว ในยุโรป ตะวันตก มักออกเดินทางท่องเที่ยวกันมากกว่า คนหนุ่มสาว ฝั่งเอเซีย หรือคนไทย เพราะสภาวะสังคมครอบครัวใช้ชีวิตแตกต่างกัน ฝั่งตะวันตกส่วนมากเป็นสังคมแยกตั้งแต่เริ่มจบ ไฮสคูล ส่วนฝั่งไทย ของเราคงตรงข้ามกัน และคนวัยหนุ่มสาว ก็มุ่งหน้าที่จะเก็บเงินให้ได้มากๆ เพื่อไปเที่ยวฝั่งตะวันตก ซึ่งค่าครองชีพสูงกว่าฝั่งเรา กลับตรงข้าม ฝรั่งตะวันตก มีความกล้าที่จะออกเดินทางมากกว่า และเดินทางด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า นั้นก็อาจจะสรุปได้ว่า โอกาสของคนฝั่งตะวันตกมีการเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายกว่าเรานั่นเอง
คนไทยของเรา กว่าจะเก็บเงินได้พอ ร่างกายก็ร่วงโรย เดินไม่ไหวกันเสียแล้ว “ไปเที่ยว ได้แค่ไปเยี่ยวแล้วเลี้ยวกลับ”
บทสรุปของการที่คนเรา ทำไมถึงอยากท่องเที่ยว มี 8 หัวข้อตามความเข้าใจของผม ดังนี้
- ได้ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ
- ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
- ได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ
- เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย และได้ใช้เวลากับตัวเอง
- ได้เข้าใจในความแตกต่างของผู้คนระหว่างทาง
- ช่วยฝึกทักษะในการแก้ปัญหา ที่เราไม่เคยเจอ
- ได้ฝึกความอดทน กับการรอคอย
- เพิ่มพลังให้กับตัวคุณ หรือชาร์ทแบตเตอรี่ให้ตนเอง
บทสรุปของการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกของชีวิต
จากที่เล่าเรื่องมาทั้งหมด คงทำให้ท่านผู้อ่านคงได้ข้อเข้าใจ หรืออาจตรงใจข้อใด ข้อหนึ่งก็เป็นได้ โดยรวบสรุปได้ว่า
ทุกคนคงมี ประวัติการเดินทาง, จำไดว่าออกนอกบ้านเมื่อไหร่?, และไปกะใคร,มีความประทับใจแบบไหนบ้าง, การผจญภัย หรือมีอุปสรรคอย่างไร ระหว่างการเดินทาง, มีการบันทึก จดจำการเดินทาง และสุดท้ายคงได้คำตอบว่า “ทำไมถึงอยากท่องเที่ยว”
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.