มาแนะนำแหล่งเที่ยว ชมแสงออโรร่า (Aurora) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีการเรืองแสงบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด
ปรากฏการณ์ออโรราเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก มันอาจปรากฏจากสิ่งจาง ๆ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที บางครั้งจะปรากฏเหมือนมันจะแตะกับพื้น หรือในเวลาอื่นอาจเห็นมันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 300 กิโลเมตร บริเวณที่อยู่บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ อีกทั้งออโรร่า (Aurora)ยังเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์บนฟากฟ้าที่มีหน้าตาชวนสะกดให้หลงใหล มีลักษณะเป็นแสงสวยงามเรืองรองสะท้อนอยู่บนท้องฟ้าของประเทศแถบขั้วโลก เช่น ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย โดยแสงออโรร่รานี้ถูกขนานนามว่าเป็น “การเต้นรำของแสงสี” (The Bright of Dancing Lights) หรือ “การเริงระบำของจิตวิญญาณ” (Dance of The Spirits)
แสงออโรร่า ( Northern Lights or Aurora Borealis ) เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้า ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากใฝ่ฝันจะได้ไปเห็นสักครั้งในชีวิต ความมหัศจรรย์ของลำแสงสีเขียว ซึ่งบางครั้งก็เป็นสีแดงและสีม่วงที่พลิ้วไหวพาดผ่านท้องฟ้า สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์ที่ควรหาโอกาสไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง การจะได้ชมแสงเหนือนั้น นอกจากการประเทศและทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดหมายปลายทางแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหลายตัวแปร เช่น สภาพอากาศ ท้องฟ้าต้องปลอดโปร่ง และค่าของพายุสุริยะ ( Solar Storm ) ที่เรียกว่าค่า Auroral Activity ซึ่งยิ่งสูงโอกาสที่เห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าก็จะมีมากขึ้น
ในวันนี้ เราจะมาแนะนำทำเลยอดเยี่ยมในการชมปรากฎการณ์นี้ ประเทศที่ “นักล่าแสงเหนือ” ต้องห้ามพลาดที่จะไปชมความงดงามของธรรมชาติในโลกใบนี้กัน
การ ชมแสงออโรร่า Aurora Iceland – ประเทศไอซ์แลนด์
ภาพจาก : iStockPhoto
“แสงเหนือไอซ์แลนด์” เป็นที่กล่าวขานกันมาก เนื่องด้วยไอซ์แลนด์เป็นประเทศตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เหล่านักล่าแสงเหนือหรือแสงออโรร่าให้ความนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวชม ประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและไร้มลพิษแห่งนี้ เป็นเสมือนจุดยุทธศาสตร์ในการชมแสงเหนือคุณสามารถเห็นแสงเหนือไอซ์แลนด์ได้โดยไม่ต้องขับรถไปไกลจากเมืองหลวง Reykjavik หรือใครเลือกที่จะอยู่ชมแสงเหนือในตัวเมืองก็เป็นไปได้ แต่จะไม่ชัดมากนัก
ภาพจาก : iStockPhoto
นอกจากเมืองหลวง Reykjavik แล้ว ทางตะวันตกของประเทศบริเวณภูเขา Kirkjufell ซึ่งห่างจากตัวเมืองหลวงประมาณ 2 -3 ชั่วโมง ทางตอนเหนือของประเทศบริเวณ Westfjords และทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์บริเวณ JökulsárlönGlacier Lagoon ซึ่งห่างจากตัวเมืองหลวงใช้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ก็ถือเป็นจุดชมแสงเหนือที่สวยงามอีกด้วย แต่จริง ๆ แล้วไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่คุณจะมีโอกาสเห็นแสงเหนือได้จากในทุก ๆ ที่ถ้าสภาพอากาศและค่า Auroral Activity อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ใครสนใจจะไปชมแสงเหนือไอซ์แลนด์ก็สามารถเช็คพยากรณ์แสงเหนือได้ที่นี่นะคะ Click!
“ฉันจะชมแสงออโรร่าได้ที่ไหนในไอซ์แลนด์?”
เป็นคำถามที่พบบ่อยของนักเดินทางเมื่อต้องวางแผนการเดินทาง หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย คุณสามารถเห็นแสงเหนือได้ทุกที่ในไอซ์แลนด์ แต่ในบางสถานที่จะง่ายกว่าและสวยงามกว่าที่อื่น
คุณควรพิจารณาว่าคุณจะพักที่ใดในไอซ์แลนด์หากคุณต้องการตามล่าหาแสงออโรร่า ตามหลักการแล้ว คุณจะต้องการหาสถานที่ที่มีมลภาวะทางแสงและมีเมฆปกคลุมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แหล่งธรรมชาติที่สวยงามที่สุดหลายแห่งของไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมแสงออโรร่า ซึ่งรวมถึง อุทยานแห่งชาติ Thingvellir ทางตอนใต้ หุบเขา Asbyrgi ทางตอนเหนือ และ ภูเขา Kirkjufell ทางตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุด
ต่อไปนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์:
แสงเหนือในฟยอร์ดตะวันตกและไอซ์แลนด์เหนือ
ฟยอร์ดทางตะวันตกและทางเหนือของไอซ์แลนด์มีชั่วโมงแห่งความมืดที่ยาวนานกว่า และโดยทั่วไปแล้วจะมีเมฆปกคลุมน้อยกว่าบริเวณอื่นๆ ทำให้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมแสงออโรร่าบอเรลลีส
ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือเมือง Akureyri เนื่องจากเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะเห็นแสงเหนือใน Akureyri แต่มลพิษทางแสงทำให้ไม่เหมาะสำหรับการดู
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
การเดินทาง
นั่งเครื่องสู่เมืองเรคยาวิค และเดินทางโดยรถยนต์ ไปท่องเที่ยวแต่ละเมือง
พักที่ไหนดี? ในไอซ์แลนด์
เมือง Reykjavik เมือง Selfoss
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ในไอซ์แลนด์
ระหว่างเดือนกันยายนถึงกลางเดือนเมษายน จะเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
แสงออโรร่า Aurora Sweden – ประเทศสวีเดน
ภาพจาก:iStockPhoto
ประเทศสวีเดนเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทางสำหรับนักล่าแสงเหนือทางตอนเหนือสุดของประเทศ หรือ Lapland ของประเทศสวีเดนนั้น เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการชมแสงเหนือหรือแสงออโรร่าแบบตระการตา โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบที่สวยงาม สถานที่สำหรับชมแสงเหนือที่มีชื่อเสียงของประเทศสวีเดนมีอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น Aurora Sky Station สถานีชมแสงเหนือในอุทยานแห่งชาติอบิสโก Abisko National Park ที่นี่คุณจะต้องขึ้นกระเช้าไปยังตัวสถานีด้านบนภูเขา Abisko National Park มีความโดดเด่นในเรื่องท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากเป็นพิเศษ
ภาพจาก:iStockPhoto
นอกจากนี้ยังมี หมู่บ้าน Porjus หมู่บ้านริมทะเลสาบ Stoma Lulevatten และ หุบเขา Torne ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมน้ำแข็ง Ice Hotel ที่มีชื่อเสียงไว้เป็นตัวเลือกในการชมแสงเหนือที่มีชื่อเสียงอีกด้วยโดยคุณสามารถเช็คพยากรณ์ค่า Auroral Activity ของประเทศสวีเดนได้ที่นี่ค่ะ Click!
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
การเดินทาง
พักที่ไหนดี? ในสวีเดน
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ในสวีเดน
ระหว่างเดือนกันยายนถึงปลายเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
ชมแสงออโรร่า Aurora Norway – ประเทศนอร์เวย์
ภาพจาก :iStockPhoto
ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของสวีเดน ที่เป็นจุดชมแสงเหนืออันสวยงามไม่แพ้กัน บริเวณทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ หรือ Lapland เป็นพื้นที่ยอดนิยมในการเดินทางไปชมแสงเหนือ สถานที่ยอดนิยมจะอยู่ที่เมืองทรอมโซ Tromsøเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ตรงกลางของวงแหวนออโรร่า ( Aurora Oval ) บวกกับอากาศที่ดี ไร้มลพิษทำให้มีโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือค่อนข้างสูงนอกจากเมืองทรอมโซแล้ว อีกที่หนึ่งที่นักล่าแสงเหนือไม่ควรพลาดก็คือ Lofoten Islands หมู่บ้านสวย ๆ ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล
ภาพจาก :iStockPhoto
นอกจากจะเป็นจุดชมแสงเหนือแบบเอกซ์คลูซีฟแล้ว ยังมีฉากหลังเป็นหมู่บ้านสวย ๆ อีกด้วยใครจะไปชมแสงเหนือฟิน ๆ ที่นอร์เวย์ก็สามารถเช็คพยากรณ์แสงเหนือเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่นะคะ Click!
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
การเดินทาง
พักที่ไหนดี? ในนอร์เวย์
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ในนอร์เวย์
ระหว่างช่วงปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
แสงออโรร่า Aurora Finland – ประเทศฟินแลนด์
ภาพจาก :iStockPhoto
อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดสำหรับนักล่าแสงเหนือตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์หรือ Lapland เป็นสถานที่ที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้สูง จุดชมแสงเหนือยอดนิยมของ Lapland ได้แก่ Sodankylä สถานที่ตั้งของ Finland’s National Observatory of Northern Lights ทะเลสาบ Inari
ภาพจาก : iStockPhoto
หรือ Inari Lake ทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของฟินแลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องปักหมุด รวมถึงอุทยานแห่งชาติ Luosto และ Oulanka ก็เป็นอีกสถานที่ที่ไร้แสงอื่น ๆ รบกวน ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้แบบฟิน ๆ มากขึ้น
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
พักที่ไหนดี? ในฟินแลนด์
เมือง Rovaniemi เฮลซิงกิ Inari
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ในฟินแลนด์
ระหว่างช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนเมษายน จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
แสงออโรร่า Aurora Russia – ประเทศรัสเซีย
ภาพจาก : iStockPhoto
ประเทศหนึ่งเดียวที่เราสามารถไปดูแสงเหนือได้แบบไม่ต้องขอวีซ่าคือประเทศรัสเซีย และแสงเหนือที่นี่ก็สวยงามตระการตาไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลยล่ะค่ะ เมืองที่เป็นสถานที่ยอดนิยมคือ Murmansk เมืองทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นเหมือนประตูสู่การชมแสงเหนือของประเทศรัสเซีย นอกจากจะได้ชมแสงเหนือที่สวยงามแล้ว ยังจะได้สัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวเมืองรัสเซียที่นี่อีกด้วย
ภาพจาก : iStockPhoto
จาก Murmansk ไปทางใต้จะมีเมืองที่เรียกว่า Severodvinsk ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเห็นแสงเหนือได้ชนิดที่คนพื้นเมืองบอกว่าไม่ต้องขับรถออกจากตัวเมืองเลยทีเดียว ใครอยากไปชมแสงเหนือแบบฟิน ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องขอวีซ่า ก็ต้องที่รัสเซียนี่ล่ะค่ะ
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
พักที่ไหนดี ในรัสเซีย?
เมือง Murmansk Severodvinsk
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ในรัสเซีย
ระหว่างช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งในเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม จะเป็นช่วงที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือแสงออโรร่าสูงมากที่สุด
ชมแสงออโรร่า Aurora Australia – ประเทศออสเตรเลีย
ภาพจาก : iStockPhoto
นอกจากปรากฎการณ์แสงเหนือแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่คล้าย ๆ กันคือแสงใต้ หรือ Aurora Australia ซึ่งจะปรากฏขึ้นที่ Tasmania รัฐทางตอนใต้ของออสเตรเลียอีกด้วย แสงใต้ที่นี่จะเห็นได้ตลอดปี ถ้าท้องฟ้าปลอดโปร่ง และมีค่า Aurora Activity ที่สูง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายนมักจะเป็นเดือนที่สังเกตเห็นแสงใต้ในรัฐ Tasmania ประเทศออสเตรเลียได้สวยงามและชัดเจนที่สุดจากทุกมุมเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ เพราะการเดินทางจากประเทศไทยไปรัฐ Tasmania ก็สะดวกสบาย สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ Hobart International Airport ได้เลย
การเดินทาง พักที่ไหนดี? ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
การเดินทาง
พักที่ไหนดี? เพื่อชมแสงออโรร่า ในออสเตรเลีย
เมือง เกาะโฮบาร์ต Hobart
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เพื่อชมแสงออโรร่า ในออสเตรเลีย
ช่วงเดือน มีนาคม – กันยายน ซึ่งจะเป็นตรงข้ามกับฝั่งซีกขั้วโลกเหนือ
สรุปการเที่ยวชมแสงออโรร่า ในโลกนี้
เรามักจะนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในซีกฝั่งยุโรป นั่นหมายความว่าผื้นแผ่นดินที่อยู่ซีกตอนเหนือของเส้นศูนย์สูตร โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ติดกับขั้วโลกเหนือนั้น มักจะเป็นที่นิยมในการชมแสงออโรร่า เลยมักเรียกกันว่า Northern Light หรือแสงเหนือ และการท่องเที่ยวก็พัฒนาให้ประสบการณ์กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ชอบการท่องเที่ยวเพื่อชมความมหัศจรรย์ ความโรแมนติก ในท่ามกลางความหนาวเย็นของธรรมชาติ ที่มนุษย์ไม่ได้สร้างมันขึ้นมา และการที่จะใช้เวลาหรือโอกาสกับการได้ไปชมหรือได้เห็น ก็ต้องไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย หวังว่าข้อมูลเหมาะนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนการเดินทางเพื่อไปชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสักครั้งหนึ่งของคุณ
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.